“กลัฟ คณาวุฒิ” เข้าวงการ 4 ปี ยังต้องพัฒนาฝีมือ ขอเป็นตัวเองเพื่อรักษาความนิยม

ขึ้นแท่นเป็นหนุ่มฮอตแล้วก็ว่าได้ สำหรับดารานำชายหนุ่ม กลัฟ คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ ที่ในตอนนี้ มีผลงานทั้งภาพยนตร์ บัวผันฟันยับ ประกบนางเอกเบอร์หนึ่ง แอน ทองประสม รวมทั้ง ยังมีผลงานละคร มัดหัวใจยัยซุปตาร์ ประกบนางเอกมากความสามารถ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ กำลังออกอากาศทางช่อง 3HD ซึ่งเรื่องราวกำลังสนุกสนานเข้มข้นเลยทีเดียว

มีโอกาสได้คุยกับดารานำชายหนุ่ม ก็เลยถามความรู้สึก หลังได้ร่วมงานกับ 2 นางเอกระดับท็อปของวงการ พร้อมด้วย มุมมองสำหรับเพื่อการกว่า 4 ปี คิดว่า ตัวเองประสบผลสำเร็จแล้วหรือยัง

ภาพยนตร์เข้าโรงแล้ว ละครก็จะออนแอร์แล้ว รู้สึกกดดันมั้ย ?

“ก็รู้สึกกดดันนะครับ เนื่องจากว่า หลังจากออนไปแล้ว พวกเราก็จะต้องดูฟีดแบ็กด้วยว่า คนที่ตัดสินการแสดงของพวกเรา ก็คือ ผู้ชม ถ้าเกิดผู้ชมฟีดแบ็กโอเค ทั้งหมดทุกอย่างโอเค ก็รู้สึกโล่งไปเปลาะหนึ่ง แต่ว่าพวกเราก็จะต้องไปนั่งเรียนรู้อีกว่า ที่พวกเราทำไปทั้งหมดเนี่ย มันยังมีผิดพลาดตรงจุดไหนอยู่บ้าง พวกเราก็จะต้องมานั่งแก้ไข”

ลองนั่งมองผลงานตัวเองที่ไม่ใช่ซีรีส์วาย ให้คะแนนผลงานตัวเองเท่าไร ?

“เอาภาพยนตร์ บัวผันฟันยับ ก่อนนะครับ ในด้านคอมเมดี้ อาจจะสัก 7 คะแนนแล้วกัน ยังจะต้องปรับปรุงอีกออกจะเยอะ เนื่องจากว่า ในนั้นก็จะอุดมไปด้วยคนที่มีเซ้นส์ตลกออกจะเยอะ พวกเราจะต้องไปปรับปรุงตัวเอง จะได้ทันพวกพี่เขาครับผม”

กลัฟ คณาวุฒิ

คอมเมนต์ด้านบวกก็โอเค แล้วคอมเมน์ต์ด้านลบล่ะ ?

“ด้านลบก็มีครับผม ผมก็เห็น มันก็เข้าใจนะ เนื่องจากว่า หลายคนที่เขามีความคิดหรือว่าอะไรแนวๆนี้ มันต่างกันอยู่แล้ว เขาก็บางครั้งอาจจะไม่ได้ชอบแนวนี้ หรือ บางครั้งอาจจะรู้สึกว่า มุกมันฝืด บางทีมุกฝืดสำหรับเขา บางครั้งอาจจะฮามากสำหรับคนอื่นๆก็ได้”

คอมเมนต์ด้านลบที่เราเอามาคิดต่อยอดได้ ?

“มีเรื่องของคอมเมดี้นี่แหละครับผม ที่พวกเราเห็นฟีดแบ็กมานะ ที่เกี่ยวกับตัวเราก็จะเป็นเรื่องคอมเมดี้ ที่บางครั้งอาจจะยังไม่ได้กลมกลืนกับพวกพี่มากสักเท่าไหร่ ส่วนนี้พวกเราก็จะต้องไปแก้ไข”

แสดงว่าเราเครียดมากกับการเล่นคอมเมดี้ ?

“แรกๆก็เครียดครับผม เนื่องจากว่า ผมกลัวเล่นแล้วมันจะไม่ฮา เนื่องจากว่า ถ้าหากคอมเมดี้เล่นไม่ฮา ก็ไม่ใช่คอมเมดี้ครับผม เราก็พยายามต้องการที่จะให้ทุกคนดูแล้วได้รับความสนุกครับผม”

เราเล่นเองไม่ฮา ก็ยิ่งเครียดหนักเข้าไปอีก ?

“เล่นเองมันก็ฮาแหละ แต่ว่าไม่ทราบว่า คนที่เราเล่น เขาจะฮากับมุกเราหรือเปล่า อีกอย่างหนึ่ง คือ เรื่องจังหวะ อันนี้ก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ สำหรับเพื่อการเล่นคอมเมดี้ ผมรู้สึกว่า ถ้าหากจังหวะไม่ดี ต่อให้มุกมันฮาแค่ไหน ยังไงก็ไม่ฮา”

เรามองว่าตัวเองเป็นคนตลกไหม ?

“ก็เป็นคนกวนตีนแล้วกันครับผม(หัวเราะ) ผมก็มีเล่นมุกบ้าง แต่ว่าจะเป็นเล่นกับเพื่อนซะส่วนมาก”

จริงๆกลัฟถนัดแนวไหน ?

“ถนัดแนวแซวเล่นขำๆ แต่ว่าให้เล่นมุกเป็นตับๆเลยไม่ได้ครับผม เราทำจังหวะให้เหมือนพี่ๆเขาที่เล่นตลกไม่ได้ ถามว่ามีหลุดบ้างมั้ย ตอนเล่นก็มีหลุดบ้าง เนื่องจากว่า อย่าง พี่ฮาย อาภาพร ซึ่งพี่ฮายแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย เขาแค่นั่งอยู่เฉยๆ แล้วพูดอะไรของแกไปเรื่อยเปื่อย เท่านั้น ก็ฮาแล้วครับผม แทบจะไม่ต้องพยายามอะไรเลย”

นับว่าเป็นภาพยนตร์ปราบเซียน เนื่องจากว่า รุ่นพี่แต่ละคอมเมดี้จ๋ามาก ?

“ใช่ครับผม แล้วผมจะต้องเจอพี่ฮายหลายครั้ง เจอทุกซีนเลย เนื่องจากว่า ในเรื่องเขาเล่นเป็นแม่ เรา ก็ต้องเจอเขาบ่อยมาก จะพูดอะไรก็ฮา ต่อให้พูดเอาจริงเอาจัง ก็ฮา เขาพร้อมนอกบทกันตลอดเวลา ทั้งยังพี่ก๊อตจิ รวมทั้ง พี่จ๊ะด้วย คือ 3 คนนี้ พร้อมจะไหลไปเรื่อย มีแต่ผมกับพี่แอน ทองประสม นั่งมองดูกันอยู่สองคนในซีน เนื่องจากว่า พวกเราเบบี๋กันมากเลย ในเรื่องคอมเมดี้”

ทั้งยังภาพยนตร์ รวมทั้ง ละคร สองเรื่องนี้ เราได้เก็บเกี่ยวการแสดงยังไงมาบ้าง ?

“มากเลยครับผม สำหรับเรื่องภาพยนตร์ ถ้าหากพูดตรงไปตรงมา บางครั้งอาจจะไม่ได้มากเท่าละคร เนื่องจากว่า ด้วยความมันเป็นคอมเมดี้เนอะ บางครั้งอาจจะยังไม่ได้จะต้องเอาจริงเอาจังมาก หรือว่าลงดีเทลเยอะมากขนาดนั้น
แต่ว่าพอในส่วนของละคร เราเรียนรู้ออกจะเยอะ หลายเรื่องเลยครับผม ทั้งพวกดราม่า ซึ่งเรา ก็ไม่ได้ถนัด ไม่ได้เก่งพวกนี้ มาตั้งแต่ทีแรก เราก็ได้พี่เจนี่ คอยช่วย คอยบิ้ว คอยดึง ให้เราเข้าไปอยู่ในสถานการณ์นั้นให้ได้”

ผลงานทั้งสองเรื่องนี้ ได้ร่วมงานกับนักแสดงตัวแม่ทั้งหมดเลย ?

“ใช่ครับผม ของพี่แอนก็จะได้เห็นเกี่ยวกับเรื่องของวินัย เกี่ยวกับวิธีการทำงาน หรือว่า วิธีการทำการบ้าน อะไรแนวๆนี้ เราก็นั่งเก็บรายละเอียดมา ถามว่า เขาชวนไปวิ่งออกกำลังกายด้วยมั้ย ก็ชวนอยู่ครับผม แต่ว่าพวกเราก็บอกพี่เขาว่า ขอนอนก่อนนะครับ พี่เขาไม่ว่าๆ พี่แอนน่ารักครับผม พี่แอนไม่เคยดุเลย พี่เจนก็ไม่ดุนะ พี่เจนก็น่ารัก(หัวเราะ) เป็นคนตั้งใจทั้งคู่ ทั้งยังพี่แอน รวมทั้ง พี่เจนี่เลย”

ในตอนนี้ กลัฟ งานแน่นตลอดเหมือนเดิมใช่มั้ย ?

“ก็แน่นนะครับ มาเรื่อย เดี๋ยวมีคิวไปต่างประเทศม.ค. น่าจะไปประเทศเกาหลีครับผม”

กลัฟ คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์

ตารางงานแน่นจะหาเวลาพักผ่อนมั้ย ?

“ช่วงนี้ ก็บางครั้งอาจจะยังไม่ได้พัก แต่ว่าช่วงหลังจากนี้ ก็จะเป็นช่วงเทศกาล ช่วงปีใหม่ อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีได้พักบ้าง ถามว่า คิดต้องการลาพักร้อนสัก 10 วันมั้ย ยังไม่ได้คิดเลยครับผม ถึงกับขนาด 10 วัน ยังไม่ได้คิด แต่ว่า 2-3 วัน ก็มีคุยกับที่บ้าน กับเพื่อนๆบ้างครับผม”

ปีใหม่นี้ คือ ไม่รับงานเลยใช่มั้ย ?

“คิดว่า ครับ คิดว่า ไม่รับ แต่ว่าก็ไม่แน่(หัวเราะ) ก็มีติดต่อมาบ้าง แต่ว่าเราก็ยังชั่งใจอยู่ว่าจะยังไงดี ต้องการพักผ่อนดีมั้ย เนื่องจากว่า ทั้งปีตลอดมา เราก็ทำงานมาตลอด”

ถ้าหากมองดูในมุมความสำเร็จ กลัฟ คิดว่า ตัวเองมาเร็วมั้ย ?

“ถามว่า เร็วมั้ย ก็เร็วนะครับ นับว่าออกจะเร็วเลย แต่ว่าถามว่าประสบผลสำเร็จหรือยัง ก็แค่ในระดับนึง แต่ว่าก็ยังไม่ถึงกับขนาดประสบผลสำเร็จในสายอาชีพนี้เลย ยังจะต้องปรับปรุงอีกเยอะเลยครับผม”

กลัฟ จะดูแลทั้งชื่อเสียงความชื่นชอบ ที่มีคนรักมากๆแบบนี้ไว้ยังไง ?

“เรา ก็เชื่อมั่นในตัวเองนี่แหละครับผม ผมว่าสิ่งที่จำเป็นที่สุดเลย คือ สม่ำเสมอครับผม เนื่องจากว่า ถ้าเกิดเราสม่ำเสมอกับทุกคน กับพี่แฟนคลับทุกคน เราเป็นยังไง ก็เป็นอย่างนั้น ยังไงพี่ๆแฟนคลับ เขาไม่มีวันทิ้งเราอยู่แล้ว ยังไงเขาก็รักเราอยู่แล้ว เราให้ใจเขา ก็ให้ใจเราเหมือนกัน ใจแลกใจครับผม”

กลัฟเข้าวงการบันเทิงมากี่ปี ?

“เข้ามาปีที่ 4 ก็ประสบผลสำเร็จในระดับนึง ถามว่า มีเป้าหมายอะไรที่อยากจะทำอีกมั้ย ช่วงนี้ยังไม่ได้มีเป้าหมายอะไรที่เป็นชิ้นใหญ่อะไรขนาดนั้น จริงๆเราแค่ต้องการทำงานในวงการเรื่อย ทำให้ครบทุกหน้าที่เท่านั้นในตอนนี้นะครับ พรุ่งนี้ อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีเป้าหมายใหม่ก็ได้ครับผม”